การดูแลแบบ palliative care เป็นรูปแบบหนึ่งของการดูแลผู้ป่วยที่สามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวได้ดีมากขึ้น ส่วนมากจะเริ่มจากที่ผู้ป่วยซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเสียชีวิตแล้ว ไม่สามารถใช้ยารักษาหรือวิธีรักษาใดเพื่อให้หายขาดจาโรคได้ ในบทความนี้จะพูดถึง การดูแลแบบ palliative care ให้ได้รู้ว่าเป็นการดูแลในรูปแบบใดแล้วเหมาะกับใครบ้างที่ต้องได้รับการดูแลในลักษณะนี้ การดูแลแบบ palliative care เป็นการดูแลแบบใด มีหลายโรคที่ทำให้ร่างกายมนุษย์ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาหรือวิธีรักษาใดก็ตาม หรือก็คือโรคที่ทำให้มนุษย์ตายอย่างเดียว และโรคที่ทำให้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากก็คือโรคมะเร็ง ซึ่งพบได้บ่อยมากในเมืองไทย รวมทั้งประเทศอื่นทั่วโลก เมื่อเป็นมะเร็งแทบไม่มีโอกาสที่ผู้ป่วยจะรอดชีวิตมาได้ กล่าวได้ว่าโรคนี้เมื่อเป็นแล้วก็ต้องตาย มีอยู่เป็นจำนวนน้อยที่หายจากโรคนี้ การดูแลแบบ palliative care เป็นการดูแลที่ดีมากสุดกับผู้ป่วยระยะสุดท้าย การดูแลประเภทนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมและลดความทุกข์ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นทางสังคม จิตวิญญาณ ร่างกาย และจิตใจ แต่ผู้ป่วยจะยังคงได้รับการดูแลมะเร็งที่ได้มาตรฐาน ตัวอย่างคือ การรักษาด้วยการฉายรังสี การใช้เคมีบำบัด ไม่จำกัดเฉพาะประเภทของการรักษาที่ผู้ป่วยได้รับ เมื่อสิ้นสุดระยะที่ร่างกายไม่เหมาะกับการรักษาแบบเดิม การดูแลแบบ palliative care จะถูกนำมาใช้เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจโรคของตนเอง รวมถึงความเสี่ยงจากการรักษา ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการถูกรักษา ซึ่งจะดูแลทั้งตัวผู้ป่วยมะเร็งเองและครอบครัว แล้วยังคำนึงความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัวด้วย การดูแลแบบ palliative care ควรได้รับการดูแลในช่วงเวลาใด การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็น การดูแลแบบ palliative care เริ่มจากการวินิจฉัยโดยแพทย์ว่าผู้ป่วยไม่สามารถหายจากมะเร็งได้ […]
Category: Health
ผ้าอนามัยแบบสอดใช้อย่างไรให้ถูกต้อง
พักหลังมานี้เรามักจะเห็นคนรีวิวการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดกันมากขึ้น ซึ่งเมื่อก่อนผ้าอนามัยชนิดนี้ก็มีให้เลือกซื้อ แต่คนไทยเรายังไม่คุ้นกับการใช้แบบสอด เพราะความกังวลหลายอย่าง เช่น เลอะกางเกงหรือไม่ หรือจะสอดใส่แบบไหน วันนี้มาดูกันดีกว่าว่าผ้าอนามัยแบบสอดคืออะไร และมีวิธีใช้ที่ถูกต้องอย่างไร ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นผ้าอนามัยประเภทหนึ่ง ซึ่งผ้าอนามัยนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือนผ้าอนามัยแบบสอดในไทยอาจไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักเนื่องจากใส่ยาก แต่มีข้อดีตรงที่คล่องตัวกว่าสำหรับบางกิจกรรม เช่น ว่ายน้ำ เป็นต้น ทว่าผ้าอนามัยแบบสอดนั้นปลอดภัยหรือไม่เมื่อเทียบกับผ้าอนามัยแบบธรรมดา นั่นเป็นสิ่งที่ผู้หญิง ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้ผ้าอนามัยแบบสอด เพราะหากใช้โดยไม่มีความรู้เกี่ยวกับผ้าอนามัยแบบสอดก็อาจทำให้ใช้ผิดวิธีและก่อให้เกิดอันตรายได้ วิธีใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง พร้อมกับปล่อยตัวปล่อยใจให้ผ่อนคลาย นั่งหรือยืนในท่าที่ผู้ใช้ถนัดที่สุด แต่ถ้าหากยืนให้ยกขาข้างหนึ่งมาวางไว้ในตำแหน่งที่สูงกว่า เช่น ชักโครก เก้าอี้ หรือเตียงนอน และหย่อนก้นเล็กน้อย คล้ายการใส่ถ้วยอนามัย ใช้มือข้างที่ถนัดถือผ้าอนามัยแบบสอด ระหว่างนั้นก็ให้เอานิ้วโป้งกับนิ้วกลางจับเกลียวซึ่งอยู่ตรงกลางของผ้าอนามัย เอาปลายผ้าอนามัยแบบสอดจ่อปากช่องคลอดเบาๆ เพื่อเปิดช่องทาง พร้อมกับเอียงองศามือไปข้างหลังให้อยู่ในระนาบเดียวกับช่องคลอดซึ่งมีความลาดเอียงเล็กน้อย สอดกระบอกที่มีสำลีบรรจุเข้าไปจนนิ้วโป้งกับนิ้วกลางที่จับไว้ที่เกลียวสัมผัสร่างกายแล้ว เมื่อกระบอกเข้าไปอยู่ข้างในร่างกายแล้ว ให้ใช้นิ้วชี้แตะที่ท่อเล็กๆ พร้อมกับดันเข้าไปให้สุด เพื่อให้ตัวสำลีเข้าไปในช่องคลอดในตำแหน่งที่เหมาะสม หลังจากที่ดันแท่งสำลีเข้าไปแล้ว ให้ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วกลางที่ยังจับอยู่ดึงหลอดออก เมื่อใส่เสร็จจะมีเชือกห้อยเอาไว้ ใช้สำหรับดึงออกเพื่อเปลี่ยนอันใหม่ โดยผ้าอนามัยแบบสอดนี้จะช่วยให้เรามีความคล่องตัวในการทำกิจกรรมมากขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะล้นผ้าอนามัย ทั้งยังสามารถทำกิจกรรมว่ายน้ำได้ แม้จะเป็นประจำเดือนอยู่ แต่ถ้าหากผ้าอนามัยแบบสอดอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมของช่องคลอด อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บหรืออึดอัดได้ และในปัจจุบันนี้ก็มีการจำหน่ายผ้าอนามัยแบบสอดกันมากขึ้น อย่างใน LAZADA มีผ้าอนามัยแบบสอดอยู่หลายยี่ห้อ […]
ใครที่สามารถทำ ReLEx ได้
หากเอ่ยถึงปัญหาสายตาสั้น หลายคนก็คงคิดกันอยู่ใช่หรือไม่ว่าเป็นสิ่งที่รักษาได้ยาก และคงไม่มีใครที่อยากเผชิญปัญหานี้ ซึ่งหากว่าใครที่เบื่อการสวมแว่นก็คงจะอยากมองหาวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ กันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหาทางสายตาด้วยวิธีการอื่น การทำ ReLEx ก็จัดว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งคนที่สามารถทำการแก้ไขปัญหาทางสายตาแบบนี้ได้มีดังต่อไปนี้ 1.อายุ 18 ปี สำหรับใครที่สนใจจะแก้ปัญหาทางสายตาด้วยวิธีการ ReLEx นี้ ขอแนะนำเลยว่าให้เรานั้นตรวจสอบเงื่อนไขทางอายุก่อนจะดีกว่า เพราะการแก้ปัญหาทางสายตาแบบนี้ จะต้องมีอายุ 18 ปี อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่ยังอายุไม่ถึง 18 ปี แนะนำว่าให้เรานั้นพยายามอดใจรอก่อนจะดีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง 2.สายตาคงที่ 1ปี อีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะลืมคิดไปก็คือการที่สายตาของเรานั้นไม่คงที่ เพราะว่าสายตาที่ไม่คงที่จะก่อให้เกิดปัญหาหลายประการ นอกจากนี้แพทย์อาจจะไม่สามารถคำนวณได้อีกด้วยว่าสายตาที่ดีและเหมาะสมจะเป็นอย่างไรบ้าง หากว่าใครสายตายังไม่คงที่ก็ควรหยุดก่อนจะดีที่สุด 3.ไม่ตั้งครรภ์ สตรีตั้งครรภ์นั้น หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่ามีอันตรายหลายต่อหลายด้านด้วยกัน ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่หากว่าเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง ลดการเกิดอันตรายอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังตอบโจทย์สตรีอีกด้วย หากว่าใครที่ตั้งครรภ์ก็ควรชะลอออกไปก่อนจะดีกว่า 4.ไม่ได้ใช้ยาจิตเวช อีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนต้องระวังก็คือหากว่าคุณเป็นผู้ป่วยที่ใช้ยาจิตเวชก็ต้องชะลอไว้ก่อน รอจนกระทั่งการรักษาเสร็จสิ้นลง เนื่องจากกรณีที่ใช้ยาจิตเวช ยาจะไปส่งผลกับระบบประสาทในสมอง รวมถึงประสาทดวงตาอีกด้วย ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่หากว่าเราจะพยายามให้ตนเองเกิดความปลอดภัยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดีกว่าที่จะปล่อยให้ตนต้องไปเสี่ยงอันตราย อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถเลิกรักษาโรคทางจิตเวชได้ ก็ต้องมองหาวิธีการรักษาอื่นๆ ไปอีก 5.ไม่มีโรคกระจกตา ใครที่มีปัญหากระจกตา เช่นกระจกตาย้วย […]
Recent Comments